An Ant nimbly running about in the sunshine in search of food came across a Chrysalis that was very near its time of change.
มดตัวหนึ่งกำลังวิ่งอย่างปราดเปรียวอยู่ท่ามกลางแสงแดดเพื่อหาอาหาร มันเจอกับดักแด้ซึ่งกำลังจะกลายเป็นผีเสื้อ
The Chrysalis moved its tail, and thus attracted the attention of the Ant, who then saw for the first time that it was alive.
ดักแด้ขยับหางของมัน ดึงดูดความสนใจของมดซึ่งเพิ่งเห็นว่าดักแด้ยังมีชีวิตอยู่
"Poor, pitiable animal!" cried the Ant disdainfully.
"ช่างเป็นสัตว์ที่น่าสงสารและน่าสังเวชอะไรเช่นนี้" มดพูดจาเหยียดหยาม
"What a sad fate is yours! While I can run hither and thither, at my pleasure, and, if I wish, ascend the tallest tree, you lie imprisoned here in your shell, with power only to move a joint or two of your scaly tail."
"ทำไมช่างโชคร้ายอย่างนี้ ในขณะที่ฉันสามารถวิ่งไปที่นั่นที่นี่ ขึ้นไปยังต้นไม้ที่สูงที่สุดได้ตามใจชอบ เจ้าก็ทำได้แค่ติดอยู่ในเปลือกและขยับหางที่เป็นสะเก็ดของเจ้าเท่านั้น"
The Chrysalis heard all this, but did not try to make any reply.
ดักแด้ได้ยินทั้งหมดแต่ไม่ตอบอะไร
A few days after, when the Ant passed that way again, nothing but the shell remained.
ไม่กี่วันต่อมา มดผ่านตรงนั้นอีกครั้งพอแต่เพียงดักแด้ที่ว่างเปล่า
Wondering what had become of its contents, he felt himself suddenly shaded and fanned by the gorgeous wings of a beautiful Butterfly.
มดสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น มันพบว่าตัวเองอยู่ในเงาและถูกพัดด้วยปีกที่สวยงามของผีเสื้อแสนสวย
"Behold in me," said the Butterfly, "your much-pitied friend! Boast now of your powers to run and climb as long as you can get me to listen."
"ดูฉันสิ" ผีเสื้อพูด "เพื่อนที่น่าสงสารยิ่งกว่าฉัน! ทีนี้เจ้าก็สามารถโอ้อวดพลังของเจ้าในการวิ่งและการปีนได้เท่าที่เจ้าต้องการให้ฉันฟัง"
So saying, the Butterfly rose in the air, and, borne along and aloft on the summer breeze, was soon lost to the sight of the Ant forever.
เมื่อพูดจบ ผีเสื้อก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าตามสายลมฤดูร้อนจนลับสายตามดไปตลอดกาล
Appearances are deceptive.
สิ่งที่เห็นอาจไม่จริงเสมอไป
ท่าสามารถตรวจสอบสถานะของสินค้าได้ทุกเวลา